วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หลับลึกฝึกไว้ ไล่แก่

หลับลึกฝึกไว้ ไล่แก่
ก้อนมันสมองของเรานั้นไม่ต่างจากเขาวงกต เหมือนกับรอยหยักสมองที่ยึกยือวิ่งวนซอกซอนไปจนสุดจะตามไปได้หมด สมองสุดลดเลี้ยวจึงไม่น่าแปลกที่บางคราวเราไม่รู้สึกถึงความเครียดเลยแต่กลับมีอาการเครียดแสดงออกมาเพราะว่ามันอยู่ในจิตใต้สำนึก
                กลไกง่ายๆของการนอนไม่หลับก็คือ เคมีแปรปรวนเพราะมีบางสิ่งไปกวนมันไม่ว่าจะเป็นโรคกายหรือโรคใจ จะทำให้เคมีสมอง 2 ตัววิปริตไปจากเดิม
-          เคมีง่วง
-          เคมีตื่น
ถ้าเครียดจัดเกินไปเคมีตื่นมาก็ลากทำให้ตาค้างไม่หลับไม่นอน แม้ว่าในใจจะเหนื่อยล้าเพียงใดก็ตามแต่สมองก็ยังทำงานค้างอยู่ตรงนั้นยิ่งทำให้เครียดจัดขึ้นเพราะยามนอนไม่หลับมันก็จะคิดวนไปมาจึงขอให้เคล็ดว่า ถ้านอนไม่หลับเกิน 15 น.อย่าได้ฝืนนอนต่อ ขอให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเพลินๆไปจนง่วงแล้วกลับไปนอนใหม่  ส่วนบางท่านที่มีความทุข์ประเภทซึมเศร้าหดหู่ก็จะไปกดสมองให้เคมี      ร่วงแปรปรวนชวนให้อารมณ์ทึมๆอยากนอนก็แซ่ว อยู่บนเตียงแม่ว่านอนแล้วจะไม่ได้รู้สึกสดชื่นสบายอะไรแต่อย่างน้อยทำให้ได้หลับตาไม่ต้องรับรู้เรื่องหนักใจไว้ชั่วคราวคนที่เป็นถึงขั้นถึงขั้นนี้มีที่น่าห่วงอยู่เยอะก็คือ อาจถือเป็นทางออกคิดสั้นได้ อาจกินยานอนหลับเข้าไปหลายเม็ดเพราะขี้เกียจตื่นอีกแล้ว  อันนี้ต้องคอยดูกันให้ดีๆเพราะการตัดช่องน้อยวิธีนี้อาจะทำให้ตื่นขึ้นมามีเนื้อสมองไม่เต็มร้อยเหมือนเดิมเพราะเริ่มถูกทำรายไปในช่วงที่กินยานอนหลับขนาดนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือถ้าเห็นแล้วว่าทำท่าจะซึมเศร้าก็ขอให้เก็บตัวรักษาสักนิดเพราะแค่กินยาปรับเคมีสมองสักหน่อยแล้วความคิดลาโลกจะหายไปได้เลยคะ
กุญแจสู่ลิ้นชักสมอง
สมองเหมือนกองเคมีคะ อย่างที่บอกไป ในแต่ละเรื่องที่เราคิดไม่ว่าจิตตก อกตรม
แฟนชม อิ อิ อิ  (เติมเองคะ) อมทุกข์หรือมีความสุขล้วนแต่ใช้เคมีสมองกองมหึมานี้ทำงานร่วมกันทั้งนั้น เมื่อสมองมันต้องทำงานหนักก็เป็นที่แน่ว่า เครื่องจักรสมองต้องมีสึกหรอบ้างซึ่งได้ประมาณกันคร่าวๆว่าอณูสมองต้องถูกทำลายไปวินาทีละอณู
(เห็นไหมท่าน   อจ. ต่ออย่าดื้ออีกนะคะท่านอาจารย์ที่รักทุกท่าน   ชอบใช้งานเขาหนักอยู่นั่นบอกไงก็บ่ฟังถ้ามันพังแล้วจะแย่...แฮ่... แฮ่)
                สมองหายไปวันละราวแสนอณู ถ้ายิ่งไปหาเรื่องคิดมาก มีกากทุกข์ตระเครียดเข้าไปเพิ่มอีกยิ่งไปรุมยำสมองจนบางทีดับไปคิดอะไรไมออก  กลายเป็นเบลอเอ๋อๆไป
แต่ถ้าใครไมอยากมีอาการอย่างว่าก็ขอให้ใช้สมองเหมือนกับลิ้นชัก รู้ว่าท่านรักที่จะทำงานหลายๆอย่างพร้อมๆกัน แต่มันก็เป็นการทำลายสมองโดยตรงเพราะ ทำให้สมองไร้สติไม่จดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง เลยจนกลายเป็นผู้ใหญ่ไฮเปอร์(Altentiondeficit trait)
ขอให้หยุดทำลายสมอโดยลองคิดให้เป็นลิ้นชัก ถ้าอยากชักลิ้นชักไหนออกมาก็ให้ปิดลิ้นชักอื่นเสียก่อน.........เรียนอาจารย์ทุกท่านปวดมือขวามากแล้วค้าจิ้มดีดทั้งวันระบมไปหมดแล้วค้า     ที่เหลือไปหาซื้ออ่านเองเด้อ มือข้าเจ้าจะเดี้ยงแล้วเร็วๆๆๆรีบโอมเพี้ยงหน่อย.................ปวดมือมากค้าทุกท่าน..........
บทความโดยนายแพทย์กฤษดา ศิรามพุธ
ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์นานาชาติ  
จากนิตยสาร  คู่สร้างคู่สม ปีที่31 ฉบับที่691
ประจำวันที่1-10พย.53หน้า20-22

1 ความคิดเห็น:

  1. เพียงหวังแค่ว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
    ด้วยรักและห่วงใย
    ครูแดง

    ตอบลบ