วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ส้ม 9ลูก

มีผู้ใจดีซื้อ ส้มชั้นดีคัดพิเศษ 9 ลูก ราคา 45 บาท
แล้ว จากนั้นก็ แจกให้กับคนกลุ่มหนึ่ง ...
ส้มผลแรกอยู่กับขอทาน ขอทานผู้นั้นแกะทานแค่ครึ่งหนึ่ง
แล้ว อีกครึ่งหนึ่งก็ ขว้างทิ้งไปอย่างไม่แยแส แล้วก็บ่นว่า
" ทุเรศจัง ... ให้มาได้แค่ส้มผลเดียว "


ส้มผลที่สอง
อยู่กับลูกของ ผู้ใจดี ลูกของผู้ใจดีนั้นก็แกะทานทันที
เมื่อทานหมดผลแล้ว ก็พูดว่า ... " ส้มนี้อร่อยดีนะ "
ส้มผลที่ สาม
อยู่กับแม่ของ ผู้ใจดี แม่ของผู้ใจดีนี้ นำส้มที่ได้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม
แล้ว แช่ตู้เย็นไว้ เมื่อกระหาย จึงนำมาดื่ม ...
" แหมม..น้ำส้มนี้ชื่นใจดีจริง "
ส้มผลที่สี่
อยู่กับร้านขายของชำ เจ้าของร้านขายของชำก็นำส้มผลนี้
ไป คั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย
ปรุงได้ ที่แล้วก็นำไปใส่แก้ว แช่ไว้ในตู้แช่
เมื่อมีคนเดินผ่านมาเปิดตู้แช่ แล้วหยิบน้ำส้มแก้วนั้นมาทาน
เมื่อทานเสร็จ ก็นำแก้วเปล่านั้นวางไว้ที่ตู้แช่ ...
" เท่าไหร่ครับ "
" 10 บาท ครับ "

ส้มผลที่ห้า
อยู่กับพ่อค้า น้ำผลไม้ พ่อค้าน้ำผลไม้ก็นำส้มผลนี้
ไปคั้น เป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด
เติมน้ำตาล หน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่ขวดพลาสติก
แช่ไว้ใน ตู้น้ำแข็งบนรถเข็น
แล้วเดินเข็น จำหน่ายไปเรื่อยๆ
มีคนหนึ่งเดิน สวนมา เรียกให้หยุด เสร็จแล้วก็เปิดตู้น้ำแข็ง
ก็ชี้เอาน้ำส้มขวดนั้น คนขายหยิบน้ำส้มขวดนั้น
เปิดหยิบหลอดพลาสติกเสียบให้ หนึ่งหลอดแล้วส่งให้คนๆนั้น ...
" เท่าไหร่ครับ "
" 20 บาท ครับ "
และคน ๆ นั้นก็ถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำส้ม
ส้มผลที่หก
อยู่กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพ สินค้าชั้นนำย่านลาดพร้าว
เจ้า ของร้านอาหารแห่งนี้ก็นำส้มผลนี้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม
เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้วแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น
วันนั้นมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามา
เจ้าของร้านจึงเชื้อเชิญ และหาที่นั่งให้
ฝ่ายหญิง ... " น้ำส้มแก้วหนึ่ง ค่ะ "
ฝ่ายชาย ... " กาแฟ ร้อน ครับ "
เจ้าของร้านจึง นำน้ำส้มที่คั้นไว้นำมาใส่แก้วใบใหม่
แก้วใบนี้มีลักษณะทรงสูง รอบๆ แก้ว มีรูปหัวใจ ดวงเล็ก ๆ น่ารัก สีแดงติดอยู่
ภายในแก้วใบ นั้นมีหลอดพลาสติกเสียบอยู่ ตรงปลายหลอดนั้นงอได้
แต่เจ้าของร้านไม่ได้มาเสริฟเอง แต่มีเด็กเสริฟใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว
กระโปรง สีดำมาเสริฟ แทน เมื่อทานเสร็จ ... เช็คบิล ...
น้ำส้มแก้วนี้ 50 บาท
ส้มผลที่เจ็ด
อยู่กับ ภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ครั้งนี้ส้มผลนี้ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง ของร้าน
น้ำส้มคั้นที่ ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี
และในวันนั้น มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้าภัตตาคารนั้นมา
และมีความ ประสงค์ที่จะลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
เพื่อชม ทิวทัศน์ในยามค่ำคืนด้วย
ฝ่ายหญิง ... " น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่งค่ะ "
และ แล้วน้ำส้มคั้นแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้น
ถูกเสริฟโดย บริกรในชุดประจำร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้น
แก้ว ที่ใช้เป็นทรงสูงมีก้านสำหรับจับ หลอดเป็นหลอดพลาสติกใสตรงปลายหลอดงอได้
สิ่งที่โดดเด่นนั้นอยู่ตรงที่บริเวณขอบปากแก้วนั้น
มีส้มที่ถูกฝานเป็นวงกลมเสียบอยู่ เมื่อเรือจะเข้าเทียบฝั่ง ...
สิ่ง ที่ปรากฎในบิลนั้น ... 100 บาท
เป็น ราคาของน้ำส้มแก้วนี้
ส้มผลที่ แปด
อยู่กับคลับ เฮาซ์สุดหรูย่านปทุมธานี
และ เช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน
ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่ง
และ เก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดีเช่นเดียวกัน
ในค่ำคืนนั้นมีงานราตรีของกลุ่มสาวไฮโซกลุ่มหนึ่ง
และหนึ่งในนั้นก็สั่ง ... " น้ำส้มคั้นหนึ่ง "
... น้ำส้มคั้นแก้วนี้ถูกเสริฟโดยบริกรหนุ่มหน้าตาคมสันคนหนึ่ง
มาในชุดทักซิโดที่ตัดด้วยผ้ามูนอย่างดี
สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของบริกรหนุ่มคนนั้น คือ ถาดสีเงิน
บนถาด นั้นมีแก้วน้ำส้มคั้นตั้งอยู่
แก้ว ที่บรรจุน้ำส้มคั้นใบนี้ ป็นแก้วคริสตัลทรงสูงเจียรนัยอย่างดี
เป็นแก้วที่สั่งทำเป็นพิเศษตรงขอบปากแก้ว
มีส้มกลีบหนึ่ง ที่ถูกแกะสลักเป็น รูปนกตัวหนึ่งเกาะ(เสียบ)อยู่ที่ปากแก้วนั้น
หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส บนถาดใบนั้นที่มาพร้อมแก้วคริสตัล
มี สลิปบัตรสมาชิกคลับเฮาซ์แนบมาด้วย ... 300 บาท
... ก่อนที่หญิงผู้นั้นจะจดปากกาเซ็นลงไป
ส้มผลที่เก้า
อยู่กับโรงแรม แห่งหนึ่งย่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
และเช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้ เหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง
น้ำ ส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่ง และเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี
ค่ำคืนนี้ ห้องอาหารชั้น Sky Top มีโอกาสต้อนรับหนุ่มสาวชาวต่างประเทศคู่หนึ่ง
ที่เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินเนอร์ เนื่องในโอกาสฉลองสมรส และเลือกเมืองไทยเป็นที่ฮันนีมูน
เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว ณ มุมมองตรงนั้น
สามารถมองเห็น ทิวทัศน์ของเกาะรั ตนโกสินทร์อย่างชัดเจน
ตลอดจนสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อทอดสายตามองยาวออกไป
จะมองเห็น สะพานแขวนที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม
หลังจากพักผ่อนอิริยาบทสักพักหนึ่งแล้ว ฝ่ายหญิงจึงกล่าวกับบริกรว่า
... " Orangeade " ...
และฝ่ายชายว่า ... " American Expresso " ...
สัก พักบริกรที่อยู่ในชุดไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่านนั้นกลับมา
พร้อมกับกาแฟร้อน และน้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง
แก้วนั้นเป็น แก้วคริสตัลอย่างดี ตรงฐานแก้ว
และ ขอบปากแก้วเคลือบด้วยทอง 18 เค ถัดจากฐานรองแก้วตรงขอบที่เคลือบทองขึ้นมา
และถัดจากขอบที่เคลือบทองที่ปากแก้วลงมา ถูกเจียรนัยตกแต่งอย่างดี
เมื่อแสงไฟตก กระทบถูกแก้วเจียรนัยใบนี้จะเป็นประกายแวววับ
ยิ่งภายในใช้บรรจุน้ำส้มคั้นด้วยแล้วยิ่งทำให้โดดเด่น ยิ่งขึ้น
ตรงกลางของแก้ว ใบนี้ มีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ติดอยู่
เป็นเคลือบทอง 18 เค เช่นเดียวกัน หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส
ตรงปลายได้ขด เป็นเกลียว ตรงขอบปากแก้วมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อว่า
" ช้างเผือก " เสียบอยู่
เมื่อแสงไฟที่ เป็นหลอด Black Light ส่องมากระทบกับ " ช้างเผือก "
ดอกนี้ จะเกิดเป็นสี ขาวเรือง ๆ ขึ้นมาอย่างสวยงาม
บริ กรโค้งคำนับก่อนที่จะเสริฟ และโค้งคำนับเมื่อเสริฟเสร็จแล้ว
หลังจากที่หนุ่มสาวคู่นี้ดื่มด่ำกับ บรรยากาศในค่ำคืนนี้พอสมควรแล้ว
ฝ่าย ชายจึงกล่าวกับบริกรขึ้นว่า ...
" Cash Please " บริกรโค้งคำนับ
ก่อน ที่จะเดินไปที่แคชเชียร์
Ticket ที่ออกมา ... Orangeade 500 Baht ...

ส้มเหมือนกัน ราคาโดยเฉลี่ยแล้วผลละ 5 บาทเหมือนกัน
อาจ จะเป็นพันธุ์เดียวกัน ต้นเดียวกัน อยู่กิ่งก้านเดียวกัน
หรือ อาจจะอยู่ช่อเดียวกันด้วยซ้ำไป แต่ทำไมมูลค่าของส้มถึง
ต่างกัน มากมาย หรือว่าเป็น เพราะเวลาและสถานที่ต่างกัน
ครับ ... ช่วงเวลา สถานการณ์ และสถานที่ที่ต่างกันนั่นแหละ
เป็นตัวกำหนดมูลค่าของส้ม และ ... ของตัวคุณเอง !!!!
บ่อยครั้งที่เราเคยท้อแท้กับงาน การตกงาน คนรอบข้าง ครอบครัว
หรือแม้กระทั่ง กับ ตัวเราเอง แต่อยากจะบอกว่า ... ขอให้อดทน
เพราะ ช่วงเวลานี้ ... มันไม่ใช่ของเรา
ส้มนั้นถูกคน เป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้น
แล้ว ทำไมเราไม่กำหนดมูลค่าของตัวเราขึ้นมาบ้างหละ
ณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไป
แต่เชื่อแน่ว่า หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า ทางเดินเส้นนี้
เราได้ ตัดสินใจเลือกที่จะเดินแล้ว

7 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุยาตนำเสนอบทความใหม่ พอดีญาติจากประทีปของไทย( อ.สุคนธ์รักษ์ ปัญญา)ส่งมาใ้ห้อ่านแล้วมันดีมากๆๆๆๆอดใจไม่ไหวต้องส่งต่ออีกจนได้แหละ

    ตอบลบ
  2. จากบทความดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ส้มนั้นถูกคน เป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้นแล้ว ทำไมเราไม่กำหนดมูลค่าของตัวเราขึ้นมาบ้างหละ
    ถ้าณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไป
    แต่เชื่อแน่ว่า หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า ทางเดินเส้นนี้เราได้ ตัดสินใจเลือกที่จะเดินแล้ว

    จงตั้งมั่น และก้าวต่อไป อดทนเพื่อรอเวลาของเรา ไม่ แน่นะมาก มายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไปได้ว่า มูลค่าของเราอาจจะมาก มายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไปได้

    ตอบลบ
  3. บทความส้ม 9 ลูก ดีมาก ๆ เลยค่ะ อ่านแล้วซึ้งค่ะ คนเรามักจะชอบดูถูกตัวเอง มองแต่สิ่งที่อยู่ข้างนอก แต่ไม่เคยมองดูตัวเองว่าตัวเองถนัดอะไร เอาแต่ตัวเองไปเปรียบเทียบในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้หรือยาก แต่ลืมนึกถึงคุณค่าของตนเอง คนทุกคนมีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น คนทุกคนเป็นคนดี แต่การที่เรามองเห็นสิ่งที่ไม่มีเราก็ต้องพยายามที่จะเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงไม่ดี เราจงอย่าตัดสินว่าคนนั้นดีหรือไม่ดีโดยปราศจากข้อมูล (หรือเราไม่รู้จักเค้าดีพอ) และจงนึกเสมอว่า The grass is always greener'
    (This idiom means that what other people have or do looks preferable to our life. มาจากสำนวนเต็ม ๆ ว่า'The grass is always greener on the other side of the fence'.)เช่น ถ้าเราคิดว่าเรารวย ก็ย่อมมีคนที่รวยกว่า ถ้าเราคิดว่าเราฉลาด ก็ย่อมมีคนที่ฉลาดกว่าเสมอ ฯลฯ ดังนั้นเราจงพอใจในสิ่งที่เราเป็นในสิ่งที่เรามี หนูเฟื่องคิดแบบนี้เสมอค่ะ มันทำให้เรามีแต่ความสุข และเป็นความสุขที่เท้จริงด้วยค่ะ...มองเห็นมูลค่าของตัวเราเอง...

    ตอบลบ
  4. หนูเฟื่องแสดงความคิดเห็นได้ดีมากเสมอครูแดงขอชื่นชมๆๆๆคะดูเป็นผู็้้้้้ใหญ่เกินตัวดีคะ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณค่ะ ครูแดง....

    ตอบลบ
  6. ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากคนข้าง ๆ มากกว่าค่ะ...

    ตอบลบ
  7. เป็นบทความที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ

    ตอบลบ