คำสุดท้ายเพื่อหายสงสัย ถ้าเก่งจริงก็ต้องสอบได้แพทย์ ซิครับ หายสงสัยแล้วนะครับ
ในความไม่เก่งของพ่อมัน แม่มัน มีประสบการณ์เป็นตัวช่วยครับ
ทุกท่านทราบว่า ...
เด็กไทย ได้รับการยอมรับจากสังคมให้มีสิทธิ ไม่เก่ง เลข และ ภาษาอังกฤษ ได้
ดังนั้นหากลูกเราได้เลข และ อังกฤษ (ไม่ต้องเก่ง แค่ได้) ก็จะนำฝูง(เด็ก) ได้ ไม่ยาก
ความจริงของสองวิชานี้คือ
เลข เป็นวิชาธรรมชาติของการคิดของคนเรา
อังกฤษ ก็เป็นวิชาธรรมชาติของการสื่อสารของคนเรา แต่ต่างกันที่ เทคนิค
เลข ประสบการณ์สอนผมว่า มันอยู่ที่ความเข้าใจ และ เทคนิค
ผมเลือกจินตคณิต ให้ลูกเรียน เขาสอนเทคนิคการคำนวณด้วยลูกคิด (คล้ายจีน แต่ไม่ใช่) ฝึกคำนวณกับลูกคิด
เมื่อเด็กคล่อง ลูกคิด จะถูกเสกหายไปอยู่ในท้อง เด็กจะคิดกับลูกคิดที่จิตนาการอยู่ที่ท้อง ก็เป็นเทคนิคคิดในใจละครับ แต่สร้างภาพลูกคิดขึ้นมาให้จับต้องได้ง่าย
มาในยุคนี้มีทางเลือกมากมาย ทั้งคุมองเ่อ่ย ที่ผมเคยไปดูหลักสูตร (แล้วเอากลับมาพูดในสาขาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว) แล้วน่าสนใจมาก แต่ผมไปพบตอนลูกสาวจะขึ้น ม.1 แล้ว
ส่วนภาษาอังกฤษ ฐานหลักอยู่ที่คำศัพท์ครับ (จะขอเขียนในอีกบทความ)
จากนั่นวิชาอื่นๆ ก็อย่าให้ลูกมีอคติครับ เช่น สุขศึกษา ภาษาไทย ประวัติศาสตร์
ผลที่ได้ แม้ลูกสาวจะเป็นเด็ก เกรด 4 (โดยรวม) แต่ท่านคงทราบว่า เกรด 4 นั่นตัดที่คะแนน 80 ครับ
วิชาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ เลข กับ อังกฤษ ลูกผมจะเกาะที่ 80 นี่แหละครับอย่างเหนียวแน่น
ส่วน เลข กับ อังกฤษ ก็กระโดดออกไปจากกลุ่ม ตามฤดูกาล (ยากหรือง่าย)
การสอบ entrance
นักเรียนทุกคนต้องสอบ เลข อังกฤษ ภาษาไทย สังคม เคมี ชีวิ ฟิสิกส์ (คงครบทุกวิชาแล้วนะครับ)
ทุกวิชาคะแนนเต็มที่ 100 ครับ คนเก่งเลข กับอังกฤษ ส่วนใหญ่จะไม่ชอบภาษาไทย และสังคมฯ (ใช้คำว่าเกลียดดีกว่า)
เด็กส่วนใหญ่จะสอบตกวิชา ภาษาไทย และ สังคม รวมทั้งเด็กเก่งด้วยครับ
แต่เด็กที่กวดวิชามาในภาษาไทยและสังคม จะทำคะแนนได้ประมาณ 50 ครับ (เกาะ mean)
แล้วไปเข้าเส้นชัยที่ เลข และ อังกฤษ ครับ
คงช่วยยืนยันแล้วนะครับ ว่า ลูกผม ไม่เก่ง (จริง) ครับ
ให้ลูกเรียนคุมอง มานานนนน ตอนนี้เลิกเรียนแล้วค่ะ รูู้สึกว่าระบบจะใช้ไม่ได้ผลกับลูกสาว เลยหันไปเรียนพิเศษกับครูที่มีเทคนิคการสอน (แบบเรียนแล้วรู้สึกสนุก) อย่างที่เคยบอกว่า "สมอง"บางส่วนมีปัญหาแล้วบังเอิญน่าจะเป็นส่วนการคำนวณซะด้วย เลยช้า... ได้หน้าลืมหลัง (ถ้าย้อนเวลาได้อยากให้เรียนจินตคณิตค่ะ)
ตอบลบภาษาอังกฤษ กำลังประเมินอยู่ว่าได้จริงหรือได้หลอกเพราะสอบเ้ข้าเรียน FEP ได้...แม่ยังงงๆ ลูกเลือกเองไม่ได้ force ก็จะลองดูว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ
น่าจะมีแววด้านภาษาฯ ไหมครับ
ตอบลบเห็นด้วยกับคุณครูยุทธนะคะ ภาษาอังกฤษถ้าได้คำศัพท์ก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ถ้าได้แกรมม่าด้วยก็จะดีมากค่ะ วิธีนี้เฟื่องคุ้นพบด้วยตนเองมาแล้วค่ะ และที่สำคัญสุด ๆ คือความกล้าที่จะพูดลองถูกลองผิดค่ะ...ถ้ารู้ศัพท์ เข้าใจแกรมม่า แต่ไม่พูด ก็จะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษที่แท่้จริง หนูเฟื่องเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งหลายปี แต่เป็นคนไม่กล้าพูดเพราะอายถ้าพูดผิด แต่ตอนนี้ความอายไม่มีแล้ว เลยคิดว่าการพัฒนามาจากการกล้าพูดด้วยจะช่วยฝึกเรามากขึ้นค่ะ...ตอนนี้แม้จะพูดผิดก็ไม่อาย แต่ภูมิใจว่าเราพูดได้มากกว่า เฟื่องเปลี่ยนแนวคิดที่ทำให้กล้าพูดคือ เวลาพูดจะคิดว่าเราก็พูดภาษาอังกฤษ (ภาษาเกิดของมัน) แล้วถ้ามันฟังไม่รู้เรื่องก็ถือว่าเป็นความผิดของมันไปแล้ว 50 เปอร์เซ็น เดี๋ยวฝรั่งเค้าจะปะติดปะต่อเข้าใจได้เอง แต่ผิดกับบ้านเรานะคะ เวลาฝรั่งพูดภาษาไทยแล้วเราฟังไม่รู้เรื่องก็จะไม่มีความพยายามเข้าใจค่ะ จะหาตัวช่วยตลอดหรือไม่ก็เลิกสนใจมันไปเลย อย่างงี้ไม่ดีค่ะ...เราต้องฝึกฟังและพยายามดีความหมายว่าเค้าหมายถึงอะไร เปลี่ยนกลับมาที่ภาษาอังกฤษอีกทีนะคะ แล้วคนที่พูดภาษาอังกฤษก็มีหลายสำเนียงนะคะ แต่อันนี้เอาไว้ฝึกขั้นเทพแล้วกัน ถ้าสามารถแยกแยะได้ว่าสำเนียงภาษาอังกฤษแบบนี้แบบนั้นเป็นสำเนียงของชาติไหนได้ถือว่าเก่งละ....ไม่ว่าไปที่ไหนก็ไม่ลำบากแล้ว..
ตอบลบส่วนวิชาจินตคณิตหนูก็คิดว่าดีนะตะ เฟื่องเสียนิสัยชอบใช้เครื่องคิดเลขเลยให้คิดเลขในใจต้องใช้เวลามาก...
ตอบลบเห็นด้วยค่ะ ปูมีปัญหาด้าน ตรรก ค่ะ เลยเรียนคณิตไม่ค่อยได้ ตอนเรียนหนังสือก็พยายามแล้วนะคะ แต่ก็ยังทำไม่ได้ค่ะ คณิตควรจะเสริมให้เด็ก ๆ ตั้งแต่เล็ก ๆ ค่ะ เพราะถ้าโตไปแล้วพยายามขนาดไหน จะทำยังไง มันก็ไม่ได้ค่ะ 5555
ตอบลบใช้คำว่า "รักแรกพบ" คงจะเหมาะสม ผมเองไม่เคยได้ใช้คำ ๆ นี้กับวิชาคณิตศาสตร์เลย เมื่อไม่เกิดรักแรกพบ ก็เลยไม่เ่ก่งไปในที่สุด ทั้งที่ว่ากันแล้ว คณิตศาสตร์ น่าจะเรียนและเข้าใจได้ง่ายที่สุด แต่คนนำเสนอให้เราเป็นคนแรกทำของดีนี้หกหมด
ตอบลบแหะ แหะ คณิตกับต้อย ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน..... สมองมันไม่รับสักซีกเลยอ่ะ .... แต่เรื่องภาษาฯ ทำไมมันจำได้จำดี....(ตอนเรียนนะ) อิอิอิ...
ตอบลบแหะ ๆ ยังไม่ได้แพลนเลยอ่ะ
ตอบลบ0 - 3 ปี คือช่วงที่มนุษย์เรามีพัฒนาการเร็วสุด สูงสุด แล้วจะช้าลง ๆ ช่วง 3 - 12 ปี เป็นช่วงที่พ่อแม่อย่ากระพริบตา
ตอบลบครับผม
ตอบลบ