วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หนึ่งคำตอบของความเจ็บปวดอยู่ที่นี่

ประวัติพ่อขาว โดย คุณสุชาติ เสถียรพัฒนากูล

ประวัติครอบครัวพ่อขาว
             พ่อ ขาวก็เป็นคนบ้านแก่ง อ.ตรอน  จ.อุตรดิตถ์ พ่อก็ยังอยู่  พ่อชื่อชู  ยิ้มมี   แต่แม่ตายไปแล้วตั้งแต่ ๗ ขวบแม่สายบัว  ยิ้มมี แต่นามสกุลดั้งเดิมของแม่  คือ เบ้าไซ นามสกุลแม่สายเลือดแม่คนอีสาน  อยู่บ้านลาด อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นามสกุลที่ใช้นี้ ใน บ้านลาด อ.บ้านผือ นี้ ก็ยังมีอยู่ ยังมีพี่น้องทางเสียเลือดแม่ ทางอีสาน ยังอยู่ แต่รู้ข่าวว่า มาบวชก็มี แต่ก็ยังไม่เจอกับสายวัดป่า นี่แหละ คงซักวันหนึ่ง คงจะเจอพี่น้องสายเลือด แม่นามสกุล เบ้าไซ  ที่บ้านลาด อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  พ่อขาวก็สายเลือดอีสานครึ่งนึง ไทยครึ่งนึง  ไทยอุตรดิตถ์ ครึ่งนึง ก็ขอฝากกับนักปฏิบัติธรรม ศีล ๘ ปฏิบัติกันจริง ๆ  ถึงจะได้เห็น ได้ประจักษ์ แจ้งในจิต  ว่าธรรมของพระองค์เป็นของจริงไม่ใช่ของเล่น  เป็นของแจ่มแจ้ง ไม่มีอะไรมากเมื่อมาปฏิบัติธรรมแล้ว พูดกันไม่มาก  จะเน้นเอาคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเดียว  ทุกวันนี้พ่อขาวก็ปฏิบัติธรรม  มีธรรมอยู่ในจิตแล้วถึงอยู่ได้ ตายถึง ๒ หนรู้ความตายแล้วในธรรม  เสียสละชีวิตให้กับพระรัตนตรัย พ่อแม่ครูบาอาจารย์หมดแล้ว   ไม่มีอะไรแล้วในชาตินี้ เราหมดแล้วเราหมดห่วง ในโลก ในทางโลก  ที่เขายึดติดกันอยู่พ่อแม่พี่น้องก็จะเอาเรากลับบ้าน  เราบอกเราพบแล้วบ้านที่แท้จริงของเรา  ก็บอกพ่อผู้บังเกิดเกล้าที่มา ว่าไม่ไปแล้ว จะไปก็ต่อเมื่อพ่อตาย   ก็พูดตรง ๆ ถึงจะไปบ้าน  ไปทำไม เพราะเราพบแล้ว บ้านที่เหนือบ้าน     เข้าไปที่บ้านก็ไปยึดถือมั่นหลงตัวตนอีก ไปทำไมก็เราพบแล้วบ้านที่แท้จริงของเรา เราพบแล้วพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เราแสวงหามาตั้งนาน  แล้วเราจะหนีไปไหน เราไม่หนีแล้วเพราะเรามอบกายถวายชีวิตให้กับท่านแล้วในชาตินี้ เอาละก็ขอให้อยู่กันเป็นสุข  พ่อขาวก็พูดมากไม่ได้  เพราะเรายังอยู่ศีล ๘ พูดไปก็ไม่ดี 
                                                               
             พ่อขาวจะขอพูดตอนนี้ ว่ายังเป็นห่วงผู้ป่วยที่โรคมะเร็งอยู่   โรคที่พ่อขาวเป็นก็เป็นกลุ่มโรคมะเร็ง พ่อขาวก็ขอพูดย้ำอีก ว่าเข้ามาเถอะ เข้ามาปฏิบัติธรรม เข้ามา ประพฤติจิต ประพฤติใจ ขัดเกลาให้รู้ให้เห็นกับตัวเองว่า  โลกที่เราอาศัยอยู่นี้  ยึดในร่างกาย หรือจิตที่เราอาศัยอยู่นี้ โรคมะเร็งที่อาศัยอยู่ในร่างกายเหล่านี้มันเป็นอย่างไร เข้ามาเถอะมาดูให้เห็นกันจริง ๆ   จิตในปัญญาใน  จะพบความจริงของมะเร็ง ของโรคภัยไข้เจ็บในร่างกายว่า ในร่างกายนี้ของเรา  มีแต่โรค   โรคอาศัย  โรคภัยไข้เจ็บอาศัยอยู่  กรรมเท่านั้นที่ติดตามมา  กรรมปัจจุบันที่ให้ผลเห็นผลออกมา มาปฏิบัติกัน  มาดู ให้เห็นกันจริง ๆ  มาปล่อยวางกัน  ปล่อยความยึดมั่นถือมั่น ในตัวตน ในโรคมะเร็ง ที่กำลังเป็นอยู่กัน มาประพฤติปฏิบัติกัน ให้เห็นกับจิต  มาตายก่อนตาย เห็นก่อนตายในธรรม   พวกเรามาเป็นกลุ่ม ๆ กันเลย   ท่านผู้ป่วย โรคมะเร็งเข้ามา  มาตรวจดู มาปลงอสุพะ มาปลงของเรา  ที่ร่างกายของเรายึดอยู่อาศัยอยู่  พ่อขาวอยากให้เข้ามาจริง ๆ มาเห็นมากัน  เผื่อจะรู้ประจักษ์แล้วในธรรม ในคำสั่งสอน  ของพระพุทธเจ้า ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์  มันเป็นของจริงหรือเป็นของลวง  หมอบอกว่ามะเร็งระยะสุดท้ายรักษาไม่หายโรคนี้  เตรียมตัวได้     เข้ามาเถอะ พ่อขาวรับรองได้เห็นแน่ เราจะได้รู้  ได้เห็น จิตของเราเอง  ถ้าอย่างนั้น  เราไม่เห็น   แค่หมอบอกเรา  แต่ว่าความเจ็บปวดที่มันเกิดขึ้นกับร่างกายกับสังขารของเรา  เราทุกข์ เราทรมาน เรารู้กับจิตเราคนอื่นไม่รู้  มีแต่มาให้กำลังใจเรา  แต่ความเจ็บปวดของมะเร็ง มันแสนทรมานขนาดไหน มาปฏิบัติธรรมกันให้เห็นกันจริง  ของแท้มีอยู่ไม่ได้โกหก  เป็นตัวอย่างให้เห็นนี่คือ  มะเร็งกระดูก และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ  ที่ผ่านมา  ทำไมพ่อขาวอยู่ได้ เพราะว่าธรรมรักษา  คอยดูแลจิตใจให้มีกำลังอยู่ตลอดเวลา มา เข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรม โรคร้าย ๆ ที่หมอรักษาไม่หาย   ธรรมรักษาหายได้ มะเร็งระยะสุดท้าย ที่หมอบอกว่ารักษาไม่หายแต่ธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า  ธรรมของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ รักษาหาย ดูแลรักษาหายได้ 
                                                           
                                                          พ่อขาววันชาติ ขณะลงจากเจดีย์ เกสริยา

                                                          
                                                       พ่อขาวถ่ายที่มหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองราชคฤห์ 
            พ่อขาวยังอยู่ไม่ได้โกหก  พวกที่เป็นมะเร็ง โรคร้ายมาตรวจสอบได้ อือ นี่แหละที่พ่อขาวเป็นห่วง  พ่อขาวผ่านมาแล้วสด ๆ ร้อน ๆ มันเจ็บปวดขนาดไหน มันทุกข์ทรมาน ขนาดไหน  เข้ามาหาครูบาอาจารย์ท่านจะชี้แนะให้เราปฏิบัติธรรมตามรอยของพระศาสดา ศาสนาที่ยั่งยืน ที่นับถือถ่ายทอดมาจากอินเดียของเรา  เป็นคนอินเดียอยู่ที่ประเทศอินเดีย ทุกวันนี้คำสั่งสอนของท่านอยู่ที่เมืองไทยเราคนไทยเรานับถือศาสนา การประพฤติปฏิบัติธรรมเห็นจริง   ละได้จริง ปล่อยวางได้จริง เสียสละได้จริง ๆ ไม่ได้หลอกลวงไม่ได้หลอกลวงคนทั้งโลกให้มางมงาย  ศาสนาพุทธที่เรานับถือแจ่มแจ้งจริง ๆ เข้ามา มาเป็นกลุ่ม มาเป็นคณะเลย เข้าไปหาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ไหนก็ได้  ที่เป็นพระปฏิบัติธรรมที่ชี้แนะ   ให้เข้ามาเป็นคณะ  คณะมะเร็ง  คณะโรคร้าย  คณะโรคที่หมอไม่รับ ที่หนีตาย เข้ามาปฏิบัติธรรม  ถ้าหายแล้ว   คนทั่วไปก็จะรู้เห็นว่าธรรมของพระศาสดา ของเรา  ของจริงไม่ได้เป็นของหลอกลวงชาวโลกที่มางมงาย   แล้วจะได้รู้ว่า คนที่เป็นมะเร็งหาย   ในคำสอน  คำประพฤติปฏิบัติ  ตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ชี้แนะมา  ศาสนาของเราก็ยั่งยืน สืบต่อไปให้ลูกให้หลานได้เข้ามาพึ่งทางจิตใจ ทางความสงบแห่งร่างกายและจิตใจ เป็นที่พึ่งสืบต่อไปในอนาคตของลูกหลาน  ยึดถือศาสนาพุทธให้มั่นคงถ่ายทอดต่อ ๆ กันไป  ว่ามะเร็ง โรคร้าย  การประพฤติปฏิบัติธรรมหายได้ ปล่อยวางได้ ละได้จริง ๆ เข้ามาเถอะ  มาประพฤติปฏิบัติธรรมกัน  รีบเข้ามาไม่ต้องคิด ไม่ต้องสงสัยจะตายอยู่แล้ว รีบเข้ามาเลยเชื่อพ่อขาวเถอะ   เพราะพ่อขาวพบแล้วประจักษ์แจ้งแล้วในตัวจิต ในตัวปัญญาของพ่อขาวเอง ถึงกล้าพูดได้   เพราะคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดมา  ให้พ่อขาว ที่เป็นโรคมะเร็งได้เห็นความจริง ของความเจ็บปวด มะเร็งกระดูก มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตัวรู้ ก็ยังมีอยู่ในร่างกายของพ่อขาว  แต่เขาก็ไม่ออกมา เพราะเรามีธรรมตลอดเวลา ให้พิจารณา เขาเหมือนธรรมชาติ ไหลไปอย่างธรรมชาติแล้ว ก็ดูไป เผลอไม่ได้ ก็อย่างที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ตรัสออกมาว่า   ถ้าเผลอแล้วเขาเล่นงานเราต้องพิจารณาเขาอยู่เรื่อย ๆ  ธรรมรักษาได้จริง ๆ  ธรรมปล่อยวางได้จริง ปล่อยความยึดมั่นถือมั่นได้จริง เสียสละได้จริง ที่พ่อขาวพบมา  เจอมาในธรรมของตัวพ่อขาว  ของตัวจิต ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม ทำได้จริง ๆ มาเถอะ มาปฏิบัติ   พ่อขาวพูดตรง ๆ มาตายก่อนตาย   รู้ความตายก่อนตายในธรรม  ในการปฏิบัติธรรมของกลุ่มที่เป็นมะเร็ง หรือโรคร้าย ๆ ที่หมอบอกว่ารักษาไม่หาย   ธรรมคำเดียว ว่าธรรม   รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้จริง ๆ  ธรรมประเสริฐ  ธรรมสะอาด  ธรรมผ่องใส   มาเถอะมาดูให้เห็น  มาตรวจ มาถาม มาไถ่  ได้ เข้ามา  อันนี้เป็นห่วงจริง ๆ นะ พวกที่เป็นมะเร็งที่ยังทุกข์ทรมาน   โอย โอย โอย โอยตายก็ไม่ตาย   เป็นก็ไม่เป็น  ร้องโอย โอย อยู่ที่โรงพยาบาล ทุกข์ทรมานอยู่ที่โรงพยาบาล  ปล่อยวางเถอะ ถ้าพบแล้วเห็นแล้วจิตก็จะปล่อยวางไปเอง  ในดวงจิต  ที่ขาวสะอาด ที่ขัดเกลา สิ่งสกปรก ในร่างกายของเราได้ เห็นสิ่งสกปรกในร่างกายของเราได้  ตอนนี้เรายังยึดถือมั่น  ว่าเป็นของเราหมดแม้แต่สิ่งสกปรก ในร่างกายก็เป็นของเรา  ถ้าเข้ามาปฏิบัติเห็นแล้วมันก็จะปล่อยวางไปเอง มันเป็นคอมพิวเตอร์ของจิตของปัญญา  เขาจะไหล ละไปเอง ไม่ต้องบังคับ กินยา ๕-๖เม็ด ๑๐ เม็ด พ่อขาวยังบอกพวกเราว่า ยาที่กินอยู่  เดี๋ยวนี้พ่อขาวไม่ได้กินมา ๓ ปีแล้ว ยาแก้ปวด แก้หนองแก้อักเสบ แก้เครียด นอนไม่หลับ มันต้องเครียดแน่ ใครที่เป็นมะเร็งที่หมอให้กินยา  กินยาจนหมด บางครั้งก็ร้องโอยติดคอโอย (กูก็ไม่ได้จะตายด้วยโรคมะเร็งซะแล้ว  กูจะตายเพราะยามันไปติดที่คอ)   มาเถอะ เข้ามา มาหาธรรม  ธรรมจะรักษาเองปล่อยวางเอง ละได้เอง  ไหลของธรรมไปเอง   ธรรมจะรักษาด้วยธรรมชาติ  ด้วยคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์   ที่เราเคารพนับถือบูชาอยู่  นี่พ่อขาวพูด ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งแท้ ๆ  ยังสงสารยังเอ็นดู  เพราะพ่อขาวสุด ๆมาแล้ว กับความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานในร่างกาย ๓๒ประการมันขนาดไหน   คนที่ไม่เป็นไม่รู้นะ ว่ามันเป็นอย่างไร  มันรวดร้าว หมดเลยทุกส่วนของร่างกายที่เราอาศัยอยู่  ผู้ป่วยโรคมะเร็ง  จัดกันมาเป็นกลุ่มได้เลย เข้ามาหาที่พึ่งทางใจ ก่อนที่เราจะตาย   อันนี้ก็หมอบอกว่าเราตายแน่ ๆ เผาแน่   แล้วจะรออยู่ทำไมอีกเล่า  เอาสายยางใส่มือเอาโน่น เอานี่ เอาเครื่องใส่บ้าง    นั่นมันตายทุกข์ทรมานมาหาที่โรงธรรม  โรงธรรมไม่ต้องไปหาที่โรงพยาบาล มาหาโรงธรรมของพระพุทธเจ้า   มาแล้ว มาได้เจอ ไม่ต้องไปเจอหมอมาเจอคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ มาประพฤติปฏิบัติธรรม  มานั่ง มานอน มาเดิน อยู่ที่วัด ปฏิบัติธรรมกัน ดีกว่าไปเดิน ไปนั่ง ไปนอน อยู่ที่โรงพยาบาล มันทุกข์ทรมาน แต่ถ้ามานั่ง มานอน มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่โรงธรรม
                                                            
                                                                 พ่อขาววันชาติ และญาติโยม
            ธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วก็จะรู้จะเห็น   ความเจ็บปวด  จะเบาบาง  ความเจ็บปวดจะพิจารณาความเจ็บปวด  จะเห็นตัวเอง เห็นจิตใจ  จิตใจ ก็จะส่องดูในร่างกาย ตรวจดูในร่างกายของตัวเอง เรารู้เองเราเห็นเองโรคภัยไข้เจ็บของเรา  เราไม่ต้องให้หมอตรวจร่างกายของเราเราตรวจของเราเองดีกว่า เรารู้  ว่าเราเจ็บตรงไหน ปวดตรงไหน แจ่มแจ้งเรามองดูเห็นกับตา   เราจะรู้ทันทีว่า  ความเจ็บปวดภายในอยู่ตรงไหน    เป็นตรงไหน เป็นมะเร็งตรงไหนต้องรักษาอย่างไร  เราจะรู้ทันที ถ้าปฏิบัติธรรมแล้ว จิตใจก็จะเห็นทันที  ปัญญาก็จะบอกทันที   ธรรม  ธรรม รักษาเอง  ธรรมมีพลังธรรมแจ่มแจ้ง ในการประพฤติ ปฏิบัติธรรม  รักษาตัวเองดีกว่าเห็นด้วยตาในของตัวเองดีกว่า  เราได้รู้ว่าจะทำจิตใจอย่างไรยกจิตใจได้อย่างไร  ที่จะให้ความเจ็บปวดของเราเบาบางลงไปได้ถ้าไปโรงหมอ  หมอก็บอกว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เราทำใจไม่ได้เพราะเราไม่เห็น จิตเราไม่เห็นว่าเราเป็นอย่างไร  ว่าข้างในมันเจ็บปวดขนาดไหน เรารู้  หมอบอก เราก็ทำใจไม่ได้  แต่ถ้าเรามาปฏิบัติธรรมแล้ว จิตสงบแล้ว  ปัญญาก็จะเอาจิตให้ดู  ให้พิจารณาความเจ็บปวดของร่างกาย  ในโรคมะเร็ง โรคร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของแต่ละบุคคล ปัญญาก็จะพิจารณา จิตก็จะเริ่มมีพลังเพราะว่าจิตมองเห็น รู้แล้ว กายของเรา ว่าจุดนี้ มันเจ็บ จุดนี้ จิตก็จะขึ้นอีกระดับหนึ่ง   เบาบางไปในความเจ็บปวดนี่คือเราเห็นด้วยตาในของเราจริง ๆ ไม่โกหก   เราเห็นจริง ๆ จิตก็จะไม่ยึด จะค่อย ๆ ปล่อยวาง ปล่อยวาง ปัญญาก็จะคอยแนะนำจิตให้เข้มแข็งให้ปล่อยวางไปในที่สุด นี่นะ  คงเข้าใจที่พ่อขาวพูดนะ  กลุ่มที่เป็นมะเร็ง เป็นโรค ร้าย ๆ ที่พ่อขาว กล่าวไปว่า หมอบอกให้เตรียมตัวได้เตรียมใจได้ นี่แหละ  มาเถอะ มาดู  มาเห็นด้วยจิตใน ตาใน จิตในของเราให้รู้ กับตัวของตัวเราเอง  และเราก็จะปล่อยวางได้   ถ้าเรารู้จุดไหนแล้ว ปัญญามันก็จะพัฒนาจิตให้มีพลัง  มีกำลังเข้มแข็งต่อสู้  ปล่อยวางกับโรคภัยไข้เจ็บได้   นี่ไงที่สุดก็จะแจ่มแจ้งไปเองละได้ไปเอง  นี่ที่พ่อขาวปฏิบัติมาก็เป็นอย่างนี้ เอ่ยไปพูดไปด้วยสัตย์จริง  ที่พ่อขาวพูดไปไม่ได้โกหก เพราะพ่อขาวอยู่ในศีล ปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรม ถ้าพ่อขาวโกหกมาตลอด แล้วไฉนเล่า   พ่อขาวจะพบความจริงของร่างกาย พบความเสียสละของจิตพ่อขาวพูดไปโดยความสงสาร เห็นใจคนที่เป็นมะเร็ง ทุก  ๆ มะเร็ง ที่เกิดขึ้นกับร่างกายแล้วแต่ว่าใครจะเป็นที่ส่วนไหน   นี่ของฝากไว้กับกลุ่มที่เป็นพวกมะเร็งจริง ๆ เข้าไปหาพ่อแม่ครูบาอาจารย์สำนักไหนวัดไหน  ที่ปฏิบัติธรรม เอา อันนี้ขอฝากไว้จริง ๆ ขอให้รีบเข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรม อย่าไปเสียดายมันเลย ทรัพย์สมบัติ รู้ว่าทางโลกก็ยังต้องการอยู่  ยังต้องแสวงหาอยู่  เพราะยังต้องอาศัยเขาอยู่ ต้องกิน ต้องนอน ต้องนุ่มห่ม  แต่เราเป็นโรคมะเร็ง หมอก็บอกเรา รักษาไม่หาย  แล้วเราจะคอยทำไม  เราจะไปยึดทำไม ไปหวงทำไม  ทำไมไม่หวงร่างกายที่เจ็บปวด ร้องโอย โอย  อยู่ อือ  สิ่งของอะไรก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้  พี่น้องพ่อแม่ ก็ช่วยเหลือเราไม่ได้  นี่พูดถึง เรื่องโรคมะเร็งโรคร้ายที่หมอบอกว่า  ให้เตรียมตัวได้  อย่าไปยึดเลย อย่างไปยึดติด  ยึดหลงเลย หมอว่ารักษาไม่หาย  แล้วเราจะไปยึดติดมันทำไม ปล่อยวางมันเลย ก็ได้ยินชัด ๆ แล้ว ว่าจะต้องเตรียมตัวตาย   แล้วยังจะไปยึดไปติดมันอีก   หวงมันอีกทำไม ทำไมไม่ไปปฏิบัติธรรม ไปตายก่อนตายในธรรม  ตายก่อนตายในการปฏิบัติธรรมกัน  คนที่เป็นมะเร็งอื่น ๆ และคนที่เป็นมะเร็งอย่างพ่อขาว   พ่อขาวก็ขอฝากไว้  พี่น้องที่เป็นโรคร้ายที่พ่อขาวกล่าวมา  พ่อขาวถึงพูดได้ว่า

หนึ่งคำตอบของความเจ็บปวดอยู่ที่นี่
           เพราะมันเจ็บปวดจริง ๆ ในชีวิตของพวกที่เป็นมะเร็งที่รอความตาย  ขอฝากไว้แค่นี้นะ  เข้ามาไว ๆ นะ ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง มาเห็นแก่นแท้จริง ๆ ของโรคมะเร็ง  ด้วยคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่ถ่ายทอดออกมา ด้วยความบริสุทธิ์  คือความมีเมตตา ให้กับเรา  นั่นเอง


1 ความคิดเห็น:

  1. ชื่อเรื่องอาจจะดูไม่สน่าสนใจแต่ถ้าคุณอ่านมันอย่าใช้สติพิจารณาก็น่าจะ...คะ

    ตอบลบ